วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

นาซาต้องการสร้างสนามแม่เหล็กยักษ์เพื่อให้ดาวอังคารสามารถอยู่อาศัยได้


          "นาซาต้องการสร้างสนามแม่เหล็กยักษ์เพื่อให้ดาวอังคารสามารถอยู่อาศัยได้" อ่านหัวข้อแล้วเพื่อน ๆ บางคนอาจจะสงสัยว่า "สนามแม่เหล็กเกี่ยวอะไรกับการอยู่อาศัยหว่า" ใช่ไหมครับ (ถึงไม่มีใครสงสัย ผมก็จะเกริ่นบอกก่อนจะเข้าเนื้อข่าวอยู่ดีแหละ ฮา) เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากดวงอาทิตย์อันร้อนแรงของพวกเรา เพราะนอกจากจะเปล่งแสงให้ความอบอุ่นแล้ว ดวงอาทิตย์ก็ยังใจดีปลดปล่อยกระแสของอนุภาคประจุไฟฟ้าความเร็วสูงออกมาเป็นของแถมให้อีกด้วย ซึ่งเราเรียกเจ้ากระแสของอนุภาคประจุไฟฟ้าที่ดวงอาทิตย์ปล่อยออกมาทั่วทุกทิศทางนี้ว่า "ลมสุริยะ"


          โดยปกติแล้วลมสุริยะจะไม่ทำอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเพราะโลกเรามีสนามแม่เหล็กที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของหินหนืดในแก่นโลกชั้นนอกคอยเป็นเกราะปกป้องอยู่ ส่วนดาวอังคารที่ไม่มีการเคลื่อนตัวของหินหนืดแล้วจึงไม่มีสนามแม่เหล็กห่อหุ้ม ลมสุริยะจึงพัดพาชั้นบรรยากาศของดาวอังคารออกไปตามภาพ (ฝั่งซ้ายเป็นภาพของดาวอังคารที่ปราศจากสนามแม่เหล็ก ส่วนฝั่งขวาเป็นภาพของโลกที่ยังปลอดภัยเพราะมีเกราะสนามแม่เหล็กปกป้องอยู่) .....อ่านถึงตรงนี้เพื่อน ๆ ก็คงจะเข้าใจแล้วว่าสนามแม่เหล็กมีความเกี่ยวข้องยังไง

          แม้ว่าปัจจุบันนี้ดาวอังคารอาจจะดูแห้งแล้งแล้วก็หนาวเหน็บ แต่นักวิทยาศาสตร์คิดว่าดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้เคยมีชั้นบรรยากาศหนาเพียงพอที่จะรักษาน้ำให้อยู่ในสภาพของเหลว และมีอากาศอบอุ่นพอที่จะสามารถอาศัยอยู่ได้ ซึ่งทางนาซาได้วางแผนจะที่จะนำชั้นบรรยากาศกลับคืนสู่ดาวอังคาร โดยการสร้างสนามแม่เหล็กขนาดยักษ์เอาไว้ปกป้องดาวอังคารจากลมสุริยะเพื่อให้ชั้นบรรยากาศค่อย ๆ ฟื้นกลับคืนมาเองตามธรรมชาติ


          คุณ Jim Green หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ของนาซากล่าวว่าให้ทำการสร้าง "artificial magnetosphere (สนามแม่เหล็กเทียม)" ขึ้นในอวกาศระหว่างดาวอังคารและดวงอาทิตย์ เพื่อให้ดาวเคราะห์สีแดงอยู่ภายในอาณาเขตป้องกัน ซึ่งจะช่วยให้ชั้นบรรยากาศที่ค่อย ๆ ฟื้นกลับคืนมาไม่ถูกลมสุริยะพัดพาออกไป และทีมวิจัยคาดว่าเมื่อมีชั้นบรรยากาศหนาขึ้นจะทำให้อุณหภูมิของดาวสูงขึ้นอีก 4 องศาเซลเซียส ซึ่งอบอุ่นเพียงพอที่จะละลายน้ำแข็งคาร์บอนไดออกไซด์ที่ขั้วเหนือ เมื่อก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นก็จะก่อให้เกิดสภาวะเรือนกระจก (สภาวะที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หนาจนขังความร้อนไม่ให้ระบายออกจากดาว) ทำให้น้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำ

          วิธีนี้ไม่ใช่การ Terraforming (การปรับสภาพดวงดาว) แต่เป็นการปล่อยให้เปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ (ที่มนุษย์ลงมือทำก็แค่สร้างสนามแม่เหล็กเทียมเอง ผลลัพธ์ที่เหลือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ) ซึ่งทีมนักวิจัยกำลังศึกษาความเป็นไปได้อยู่ และถ้าวิธีนี้ได้ผลจริง ดาวอังคารก็อาจจะกลายเป็นดาวอาณานิคมของมนุษย์อีกดวง.....ก็เป็นได้ (ฮา)


ที่มา: Sciencealert.com
ภาพจาก: Nasa.gov
อ่านเพิ่มเติม: A future Mars environment for science and exploration (PDF)


Share:

0 comments:

แสดงความคิดเห็น