สิ่งหนึ่งที่เด็ก ๆ ปี 90 น่าจะรู้จักกันทุกคนก็คือ Digital Monster หรือ Virtual Pet สัตว์เลี้ยงเสมือน (เรียกย่อ ๆ ว่า V-Pet) ที่ผลิตและเริ่มจัดจำหน่ายในปี 2540 โดย Bandai (หรือที่เราเรียกกันเล่น ๆ ว่าลุงบันไดจอมย้อมแมว ฮะฮะ) ซึ่งเป็นการพัฒนามาจาก Tamagochi สัตว์เลี้ยงดิจิตอลรูปทรงไข่ โดยการเพิ่มฟังก์ชันในการต่อสู้กับ V-Pet เครื่องอื่นเข้าไป ทำให้เราต้องคอยให้อาหารคอยเลี้ยงดูแลเพื่อให้สัตว์ประหลาดกลายร่างออกมาเป็นตัวที่แข็งแกร่งและเอาไปแข่งขันกับเพื่อน ๆ ซึ่งได้รับความนิยมถึงขนาดต้องแอบเอาไปเล่นที่โรงเรียนแล้วก็ถูกครูยึดไป (ฮา)
ในปี 2560 นี้ ทาง Bandai ได้ผลิต Digital Monster รุ่นฉลองครบรอบ 20 ปี (Digital Monster Ver.20th) ออกมาเพื่อระลึกความหลังครั้งยังเยาว์วัยและดูดเงินของเหล่าเด็ก (ที่ถูกเลือก) ปี 90 (ที่ตอนนี้ใกล้จะกลายเป็นลุงเป็นป้ากันหมดแล้ว .....รวมถึงตัวกระผมเองด้วย ฮะฮะ) ซึ่งจะผลิตออกมาตามดีไซน์แบบอิฐบล็อกของรุ่นปี 2540 มี 2 สีคือ
สีน้ำตาล และ
สีเทา ตามแบบ V-Pet รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 โดยเวอร์ชันนี้ไม่ใช่แค่งานย้อมแมวที่เอาของเก่ามาผลิตใหม่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีการปรับปรุงเพิ่มเติมสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาอีกด้วย
สิ่งที่เพิ่มเข้ามา
Digimon
- มี Digimon ให้เล่นตั้งแต่ V-Pet รุ่นที่ 1 จนถึงรุ่นที่ 5
- ปรับเปลี่ยนการแสดงผล Agumon ในเครื่องสีน้ำตาล และ Gabumon ในเครื่องสีเทา
- เพิ่ม Digimon ฉลองครบรอบ 10 ปี (Doracomon), 15 ปี (Hackmon) และ 20 ปี (Durandamon)
การวิวัฒนาการ
- สามารถวิวัฒนาการได้ถึงร่างสุดยอด (ใน V-Pet รุ่นเก่า ๆ สามารถวิวัฒนาการได้ถึงแค่ร่างสมบูรณ์)
- สามารถทำ Tag Battle (รวมร่างดิจิมอน 2 ตัวเข้าด้วยกัน) แบบในเกม Digimon World: Next Order
การเลี้ยงดู
- สามารถเลี้ยงดิจิมอนได้พร้อม ๆ กัน 2 ตัว
- ใช้เวลาในการเลี้ยงดูน้อยลง
- วัยทารก -> วัยเด็ก ใช้เวลา 10 นาที (จากเดิมใช้เวลา 1 ชั่วโมง)
- วัยเด็ก -> ร่างเจริญวัย ใช้เวลา 6 ชั่วโมง (จากเดิมใช้เวลา 2 วัน)
- ร่างเจริญวัย -> ร่างโตเต็มวัย ใช้เวลา 24 ชั่วโมง (จากเดิมใช้เวลา 4 วัน)
- ร่างโตเต็มวัย -> ร่างสมบูรณ์ ใช้เวลา 36 ชั่วโมง (จากเดิมใช้เวลา 6 วัน)
- ร่างสมบูรณ์ -> ร่างสุดยอด ใช้เวลา 2 วัน (จากเดิมไม่มีการวิวัฒนาการถึงร่างนี้)
การต่อสู้
- ระบบการต่อสู้มีทั้งแบบ Single Battle และแบบ Tag Battle (สู้กันแบบ 2 ต่อ 2) มีหลอดพลังชีวิตและใช้การกดปุ่มรัว ๆ เพื่อสะสมพลังโจมตี
- สามารถต่อสู้กับดิจิมอนเหล่านี้ได้
การเชื่อมต่อ
- สามารถ copy ดิจิมอนจากการเชื่อมต่อกับเพื่อนได้
- สามารถเชื่อมต่อกับ V-Pet รุ่นเก่า ๆ รวมไปถึง Digivice รุ่น 15 ปีได้
D-1 กรังด์ปรีซ์
####################
แกะกล่อง
แค่ดูสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในเวอร์ชันครบรอบ 20 ปี ก็รู้สึกอยากเล่นขึ้นมาแล้ว คราวนี้เรามาดูการแกะกล่องกันดีกว่า ตัวเครื่องในเวอร์ชันนี้จะมีอะไรเปลี่ยนไปจากของเวอร์ชันปี 2540 บ้างนะ
แพคเกจจิ้งเรียบง่ายคล้ายกับของเวอร์ชันปี 2540 แค่มีตราประทับครบรอบ 20 ปีเพิ่มเข้ามา
เอ้า! ฮึบ จับพลิกดูด้านหลังหน่อยสิ
ไฮย่ะห์! อืมมมมม ข้างหลังมีแสดงรูปดิจิมอนที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นครบรอบ 20 ปี
ฝาหลังเกะกะแฮะ ฮึบ! ดันมันออกไป
อ้าว ข้างในฝาหลังมีคู่มือการเล่นซ่อนอยู่ด้วย แต่ช่างมันก่อนดีกว่า
ออกมาข้างนอกได้แล้วเจ้าตัวดี
ดีไซน์รูปทรงอิฐบล็อกแบบคลาสลิก เห็นแล้วนึกถึงอดีตเมื่อครั้งยังเยาว์วัย
ไหนดูข้างหลังหน่อยสิ .....นี่ไง ช่องใส่แบตเตอรี่กับตำแหน่งที่คั่นแบตเตอรี่แตกต่างจากของรุ่นปี 2540
ข้างบนเป็นพอร์ตเอาไว้เชื่อมต่อกับเครื่องเล่นรุ่นต่าง ๆ (ตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้)
ช้าอยู่ไย ดึงที่คั่นออกเล้ยยยยย! เมื่อเปิดเครื่องแล้วหน้าจอก็แสดงข้อความครบรอบ 20 ปี "DIGIMON 20th" พร้อมทั้งหน้าของทีราโนมอน
สรุปรวม ๆ แล้วตัวเครื่องคล้ายกับของเวอร์ชันปี 2540 สิ่งที่ต่างออกไปคือช่องใส่แบตเตอรี่, ตำแหน่งที่คั่นแบตเตอรี่สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง และน้ำหนักที่เบาลง
####################
วิธีเล่น
- ปุ่ม A: เลือกเมนู, เพิ่มหลอดพลังในเมนูซ้อมกับเมนูต่อสู้
- ปุ่ม B: เข้าสู่เมนูที่ถูกเลือก
- ปุ่ม C: ยกเลิกหรือออกจากเมนูที่เลือก
- สวิตซ์รีเซ็ต: รีเซ็ตเครื่องให้เริ่มต้นใหม่
- พอร์ตเชื่อมต่อ: เชื่อมต่อกับเครื่องสัตว์เลี้ยงดิจิมอนรุ่นต่าง ๆ ของบันได
เครื่อง V-Pet รุ่นนี้จะให้เราได้เลี้ยงสัตว์ดิจิตอลทีละสองตัวพร้อม ๆ กัน เราจะต้องคอยให้อาหารและฝึกฝนเพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเราวิวัฒนาการ ซึ่งเมื่อเปิดเครื่องมาเป็นครั้งแรก เกมจะให้เราตั้งชื่อผู้เลี้ยงและเวลาก่อน (ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่น และจะนำไปใช้ในการลงทะเบียนดิจิมอนบนเว็บ) เมื่อเราทำการตั้งชื่อและเวลาเสร็จเรียบร้อยก็จะได้ไข่ดิจิมอนมาหนึ่งฟอง (หลังจากเราเลี้ยงดิจิมอนตัวแรกให้กลายเป็นร่างเจริญวัยแล้ว เราก็จะได้เลือกไข่ดิจิมอนอีกฟอง)
- วิธีตั้งชื่อผู้เลี้ยง: ชื่อจะประกอบด้วยตัวอักษรคาตาคานะทั้งหมด 4 ตัว โดยกดปุ่ม A จะเป็นการเลื่อนตัวอักษรไปทีละตัว, กดปุ่ม B จะเป็นการเลือกตัวอักษรนั้น ๆ และเลื่อนไปยังตำแหน่งถัดไป, กดปุ่ม C จะเป็นการลบตัวอักษร 1 ตำแหน่ง
- วิธีตั้งเวลา: กดปุ่ม A จะเป็นการตั้งค่าชั่วโมง, กดปุ่ม B จะเป็นการตั้งค่านาที, กดปุ่ม C จะเป็นการตกลง
- วิธีดูเวลา (ในตอนที่กำลังเลี้ยงดิจิมอนอยู่) : กดปุ่ม B ในขณะที่ไม่ได้เลือกเมนูอะไรอยู่เลย (สามารถแก้ไขเวลาได้โดยการกดปุ่ม A และปุ่ม C พร้อมกัน จากนั้นก็แก้ไขตาม วิธีตั้งเวลา)
สถานะ แสดงข้อมูลดิจิมอนของเรา โดยหน้าแรกจะแสดงรูปและชื่อของดิจิมอน ถัดไปเป็นหน้าแสดงอายุกับน้ำหนัก(เนื้อกับวิตามินจะเพิ่มน้ำหนัก ส่วนการฝึกซ้อมกับการต่อสู้จะลดน้ำหนัก) ต่อไปแสดงความหิว(กินเนื้อหนึ่งชิ้น หัวใจจะเพิ่มขึ้น), กล้ามเนื้อ(กินวิตามินหนึ่งอันหรือฝึกซ้อมหนึ่งครั้ง หัวใจจะเพิ่มขึ้น), ความอุสาหะ(ฝึกซ้อมสี่ครั้ง หัวใจจะเพิ่มขึ้น), กำลังกาย(ฝึกซ้อมหรือต่อสู้จะทำให้กำลังกายลดลง), อัตราการชนะในการต่อสู้(แบบเดี่ยว), อัตราการชนะในการต่อสู้(แบบแทคทีม)
อาหาร
- エサ คือเนื้อ
- ポロテイン คือโปรตีน
ฝึกซ้อม การฝึกซ้อมจะขึ้นอยู่กับจำนวนดิจิมอนที่อยู่ในหน้าจอ ถ้าเข้าเมนูนี้โดยมีดิจิมอนอยู่เพียงตัวเดียวฝึกซ้อมโดยการกดป่ม A เพื่อเพิ่มหลอดพลัง(รูปซ้าย) แต่ถ้าเข้าโดยมีดิจิมอนสองตัวจะเป็นการโจมตีกันเอง(รูปขวา)
ต่อสู้ เมนูนี้จะมีรูปแบบการต่อสู้ให้เลือก 2 รูปแบบนั่นคือ
ต่อสู้แบบเดี่ยว (ตัวเลือกบน) และ
ต่อสู้แบบแทก (ตัวเลือกล่าง) โดยการต่อสู้แบบเดี่ยวจะมีพลังชีวิตอยู่ 10 หน่วย ให้กดปุ่ม A เพื่อเพิ่มหลอดพลัง และจะสู้กัน 5-6 เทิร์น ฝ่ายไหนเหลือพลังชีวิตเยอะกว่าก็จะชนะไป ส่วนการต่อสู้แบบแทก ดิจิมอนทั้งสองตัวจะมีพลังชีวิตรวมกันเป็น 30 หน่วย มีหลอดพลังให้กด 2 หลอด โดยหลอดแรกจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ให้เรากดปุ่ม B หยุดเมื่อมีขีดเต็มหลอด ส่วนหลอดที่สองจะคล้ายกับการต่อสู้แบบเดี่ยว นั่นคือกดปุ่ม A เพื่อเพิ่มพลังให้เต็มหลอด ซึ่งฝ่ายที่พลังชีวิตเป็นศูนย์ก่อนก็จะแพ้ ในกรณีที่สู้กัน 5-6 เทิร์นแล้วยังไม่รู้ผล ฝ่ายที่มีพลังชีวิตเยอะกว่าก็จะชนะไป
ห้องน้ำ เมื่อเวลาผ่านไป เจ้าดิจิมอนน้อยของเราก็ได้ปล่อยอุนจิโกะออกมา ซึ่งเมนูนี้จะใช้เก็บกวาดสิ่งปฏิกูลออกไป ข้อควรระวัง ถ้าปล่อยให้มีอุนจิโกะมาก ๆ จะเป็นสาเหตุทำให้ดิจิมอนของเราตายได้นะจ๊ะ
ไฟฟ้า เมนูนี้จะมีสองตัวเลือก ได้แก่
ปลุกให้ตื่น (ตัวเลือกบน) และ
กล่อมให้หลับ (ตัวเลือกล่าง) จากชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าใช้ทำอะไร ในกรณีที่ดิจิมอนของเราหลับอยู่และเราเลือกปลุกให้ตื่น ดิจิมอนของเราก็จะตื่น ในกรณีที่ดิจิมอนของเราตื่นอยู่แล้วเราเลือกกล่อมให้หลับ ดิจิมอนของเราก็จะหลับ (ถ้าดิจิมอนของเราหลับอยู่แล้ว ตัวเลือกนี้จะเป็นการห่มผ้าให้ดิจิมอน)
รักษา เมนูนี้ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยของดิจิมอน ทั้งอาการบาดเจ็บจากการต่อสู้ และอาการป่วยจากการสะสมอุนจิโกะมากจนเกินไป
อัลบั้ม เมนูนี้ใช้แสดงข้อมูลของดิจิมอนที่เราได้เก็บสะสมมาซึ่งจะมีสี่ตัวเลือก โดยตัวเลือกแรกจะแสดงดิจิมอนและชื่อของดิจิมอนที่เราเคยเลี้ยงมาทั้งหมด ตัวเลือกที่สองจะเป็นการยืนยันข้อมูลดิจิมอนที่ได้รับมาจากเพื่อน (สามารถต่อสู้กับข้อมูลดิจิมอนของเพื่อนได้) ตัวเลือกที่สามแสดงจำนวนครั้งที่ต่อสู้และจำนวนครั้งที่สู้ชนะ ตัวเลือกที่สี่แสดงชื่อผู้เลี้ยงที่เราได้ตั้งไว้ในตอนแรก
การเชื่อมต่อ เมนูนี้ใช้ในเวลาเชื่อมต่อกับเครื่องดิจิมอนของเพื่อนซึ่งจะมีสองตัวเลือกได้แก่ต่อสู้ (ตัวเลือกบน) และก็อปปี้ (ตัวเลือกล่าง)
- ต่อสู้ จะมีให้เราเลือกเครื่องที่จะทำการต่อสู้ด้วย เครื่องรุ่น 20 ปี (ตัวเลือกบน) หรือเครื่องรุ่นอื่น (ตัวเลือกล่าง) และถ้าเราเลือกต่อสู้กับเครื่องรุ่น 20 ปีก็จะมีรูปแบบการต่อสู้ให้เราเลือกว่าจะสู้แบบเดี่ยว (ตัวเลือกบน) หรือสู้แบบแทก (ตัวเลือกล่าง)
- ก็อปปี้ จะมีให้เราเลือกว่าจะส่งข้อมูลดิจิมอนไปให้เพื่อน (ตัวเลือกบน) หรือรับข้อมูลดิจิมอนมาจากเพื่อน (ตัวเลือกล่าง)
สัญลักษณ์ร้องเรียก จะแสดงก็ต่อเมื่อหัวใจของดิจิมอนหมดหลอด, อุนจิโกะ หรือนอนหลับ ซึ่งเป็นการร้องเรียกให้เรามาดูแลดิจิมอน ถ้าเราละเลยการร้องเรียกของดิจิมอนไปเรื่อย ๆ จะส่งผลให้ดิจิมอนของเราวิวัฒนาการออกมาเป็นตัวไม่ดี
ทั้งหมดนี้ก็คือการรีวิว (รวมถึงวิธีการเล่นคร่าว ๆ) ของดิจิมอนรุ่นครบรอบ 20 ปี (ที่ซึ่งออกวางขายมาตั้งนานแล้ว พอ ๆ กับบทความนี้ที่เริ่มเขียนมานานแล้วเหมือนกัน แต่ที่โพสช้าเป็นเพราะดองไว้ยาวเนื่องจากติดงานอื่น)
ช่วงนี้ผู้เขียนค่อนข้างงานล้นมือ ทำให้ไม่มีเวลาเขียนบทความ อีกทั้งถ้าเอาแต่เขียนบทความข่าว (ที่มีมาทุกวันไม่ขาดสาย) ก็จะไม่มีเวลาไปทำอะไรอย่างอื่น เพราะงั้นต่อจากนี้ไปอาจจะเขียนบทความข่าวน้อยลง หันไปเน้นเขียนบทความอื่นที่ไม่ต้องการความสดใหม่ เช่น บทความรีวิว, บทความงานวิจัย หรือบทความด้านการเขียนโปรแกรมแทน .....สำหรับบทความนี้ก็ยาวมากพอแล้ว (จะมีใครอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้บ้างเปล่าหว่า) เอาไว้พบกันใหม่บทความหน้านะ บายยยยย
จะได้หน้าจอแบบนี้ ให้กดไปที่ Troubleshoot
เลือก Advanced options
เลือก UEFI Firmware
กดปุ่ม Restart
หลัง Restart เสร็จจะแสดงหน้า Setting ค่าแบบนี้
ให้กดไปที่แทป Configuration จะเห็นว่า Intel Virtual Technology เป็น Disabled อยู่
จัดการเปิดมันซะ
จากนั้นก็ไปที่แทป Exit เลือก Exit Saving Changes
กด Yes เพื่อ Restart เท่านี้ก็เรียบร้อย
บทความ
