วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

[ประชาสัมพันธ์] OWASP Day 2016 - Let's secure!!


          ประชาสัมพันธ์งานสัมนา OWASP Day 2016 - Let's secure!! งานสัมนาด้านการรักษาความปลอดภัยบนแอปพลิเคชันงานใหญ่แห่งปี โดย OWASP Thailand Chapter และ มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (Thnic.or.th) โดยในงานจะได้พบกับกูรู้ เอ๊ยไม่ใช่ กูรูทั้งในด้าน defensive security และด้าน offensive security นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Developer meet Hacker อีกด้วย

          งานสัมนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยบนแอปพลิเคชัน เพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างปลอดภัยสูงสุด ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้ทราบว่า การเขียนแอปพลิเคชันให้มีความปลอดภัยสูงนั้นจะเริ่มที่จุดใด และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร โดยงานนี้จะมีค่าบัตรเข้าร่วมงาน ซึ่งจะแบ่งบัตรออกเป็น 2 ประเภท คือ บัตรสำหรับนักเรียน/นักศึกษา(300 บาท) และบัตรสำหรับบุคคลทั่วไป(600 บาท)


          ในงานยังมีการแจกเสื้อให้ฟรีสำหรับผู้ที่ซื้อบุคคลทั่วไป ส่วนผู้ที่ซื้อบัตรนักเรียน/นักศึกษาหรือผู้ที่ซื้อบัตรหน้างานจะไม่มีเสื้อแจกให้


วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2559
เวลา 08:30 - 17:00 น.
สถานที่ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค รัชดา (แผนที่)

Agenda




รายละเอียดเพิ่มเติม: OwaspThailand.org
ช่องทางซื้อบัตร: OWASP Day 2016 - Let's secure!!


สรุปงาน Apple Special Event ในวันที่ 27 ตุลาคม 2559


          หลังจากงาน Microsoft Windows 10 Event เพิ่งเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ไปไม่ทันไร Apple ก็เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ตามมาติด ๆ ในแบบที่เรียกได้ว่าวันชนวันเลยทีเดียว แต่.....ควรจะเรียกว่าเป็นอุปกรณ์ใหม่ดีไหมนะ เพราะจริง ๆ แล้วอุปกรณ์หลักที่เปิดตัวในงานนี้ก็คือ MacBook Pro ที่ผ่านการอัพเกรดเครื่องใหม่ล่ะ

MacBook Pro 2016




          MacBook Pro ปี 2016 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความบางยิ่งกว่า MacBook Air รุ่นปัจจุบัน มีน้ำหนักเบายิ่งขึ้น ตัวเครื่องมีสองสีได้แก่ สีเงินและสี space gray มีการขยาย Force Touch trackpad ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 2 เท่า และใช้แป้นพิมพ์เป็นแบบ Butterfly switch

          ในส่วนของ Feature ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ทาง Apple ได้นำปุ่ม Function Keys ออกไป (ปุ่ม Function Keys ก็คือปุ่มในแถบบนของ Keyboard พวกปุ่ม Esc, F1-F12 อะไรแบบเนี๊ย) เปลี่ยนเป็นหน้าจอสัมผัส OLED ซึ่งจะแสดงปุ่มฟังก์ชันที่เปลี่ยนแปลงไปตามแอปพลิเคชั่นที่กำลังใช้งานอยู่แทน โดยหน้าจอใหม่นี้ถูกเรียกว่า Touch Bar

          MacBook Pro รุ่นใหม่นี้มีสองขนาดหน้าจอคือ 13 นิ้วและ 15 นิ้ว โดยรุ่น 13 นิ้วจะแบ่งเป็นแบบมี Touch Bar กับแบบที่ไม่มี Touch Bar โดยมีสเปคคร่าว ๆ และราคา(อันน่าสยอง)ดังนี้


          เพื่อน ๆ เห็นราคาแล้วเป็นยังไงกันบ้างครับ นี่เป็นแค่ราคาเริ่มต้นเองนะ ถ้าเป็นรุ่น 15 นิ้วที่แพงที่สุดราคาตั้ง 105,900 บาทแน่ะ

Touch Bar



          พักจากความโหดร้ายมาทำความรู้จักกับ Feature ใหม่กันบ้าง Touch Bar เป็นจอสัมผัส OLED ที่อยู่ด้านบนสุดของแป้นพิมพ์ ใช้สำหรับควบคุมการทำงานของตัวเครื่องและแอปพลิเคชั่น โดยหน้าจอจะเปลี่ยนไปตามซอฟท์แวร์ที่เพื่อน ๆ กำลังใช้งานอยู่ เช่น ถ้าเพื่อน ๆ กำลังใช้งานแอปพลิเคชั่นแชทอยู่ เจ้าตัว Touch Bar ก็จะแสดง emoticon (แบบในรูป) เพื่อความสะดวกในขณะที่กำลังแชท นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็น Dock แสดงแอปพลิเคชั่นที่ตามที่เราต้องการได้อีกด้วย

Touch ID



          ในที่สุดก็นำ Touch ID มาใส่บน MacBook แล้ว โดยการฝังเซนซอร์อยู่ทางขวาของ Touch Bar ซึ่งจะทำให้เพื่อน ๆ สามารถยืนยันตัวตนในการปลดล็อคเครื่องหรือชำระเงินได้ง่าย ๆ ผ่านการสแกนนิ้วมือ

อัปเดต Applications


          มีการอัปเดตแอปพลิเคชั่นบน MacBook Pro หลาย ๆ ตัวให้รองรับ Touch Bar

LG UltraFine 5K Display



          LG ผลิตหน้าจอ 5K ให้ใช้งานกับ MacBook Pro รุ่นใหม่ ซึ่งจะเชื่อมต่อกันผ่าน Thunderbolt 3 (USB type C) สามารถแสดงวิดีโอ 5K ได้

MacBook Air


          ไม่มีการอัปเดตเพิ่มเติมอะไร (แล้วจะใส่มาทำไม ฮะฮะ)

"TV" app



          เปิดตัว "TV" app แอปพลิเคชันที่ไม่ใช่ใช้งานได้แค่บน Apple TV เท่านั้น แต่ยังใช้งานบน iPhone และ iPad ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นศูนย์รวม content จากแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทำให้เพื่อน ๆ สามารถเข้าถึง content เดียวกันได้จากทุกอุปกรณ์

          สรุป: หลัก ๆ ของการเปิดตัวในครั้งนี้อยู่ที่ MacBook Pro ที่อัพเกรดประสิทธิภาพ(และราคา) ทำให้มี Feature ใหม่ที่น่าเล่นเพิ่มเข้ามา(แต่ราคาก็ทำให้กุมขมับได้เลย) ซึ่งเจ้า MacBook Pro ตัวใหม่นี้บางมากยิ่งกว่า MacBook Air ตัวปัจจุบันเสียอีก ทำให้คาดการณ์ว่าในอนาคตอาจจะไม่มี MacBook Air อีกต่อไปแล้วก็เป็นได้ ส่วนรายละเอียดงานแบบเต็ม ๆ เพื่อน ๆ สามารถดูได้ที่ วิดีโอ Apple Special Event


ที่มา: Apple EventsTheverge.com


วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สรุปงาน Microsoft Windows 10 Event ในวันที่ 26 ตุลาคม 2559


          หลังจากที่ Google เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ ในวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา คราวนี้ก็ถึงตาของ Microsoft บ้างแล้ว งานนี้นอกจากจะมีการเปิดตัว Surface Book แล้วก็ยังมีการเปิดอุปกรณ์น่าเล่นสำหรับสายครีเอทีฟอีกด้วย เอาล่ะ.....อย่ารอช้า เราไปดูคลิปสั้น ๆ แนะนำงานในครั้งนี้กันก่อนเลย


          เป็นยังไงบ้างครับ จากในคลิปจะเห็นว่ามีการเพิ่มประสิทธิภาพของ Surface, มีการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Window 10, มีการนำใช้งานโมเดล 3D แล้วก็ยังมีอุปกรณ์ปริศนาที่เอาไปใช้หมุนบนหน้าจอได้ด้วย เรียกได้ว่างานนี้ Microsoft เปิดตัวของเล่นออกมาสนับสนุนการทำงานของเหล่าครีเอทีฟเลยล่ะ เรามาดูสรุปงานกันดีกว่าว่างานครั้งนี้จะมีอะไรโดนใจเพื่อน ๆ กันบ้าง

Surface Studio



          เริ่มกันที่ Surface Studio หรือ PC แบบตั้งโต๊ะที่ถูกพัฒนาให้มีรูปร่างคล้ายกับโต๊ะเขียนแบบที่สามารถปรับระดับความเอียงของหน้าจอได้ มีจอเป็น Touch Screen 10 จุดแบบ 4.5K Ultra HD ขนาด 28 นิ้ว เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมจำพวก Mouse และ Keyboard ด้วย Bluetooth


          ด้วยขนาดหน้าจอและรูปร่างแบบนี้เหมาะที่จะนำไปใช้ในงานเขียนแบบ แถมสเปคก็แรงด้วย เพื่อน ๆ ที่เป็นสถาปนิกหรือนักวาดการ์ตูนคงจะยิ้มกริ่มกันแล้วใช่ไหมล่ะ แต่เดี๋ยวก่อน.....ถ้าได้ดูราคาแล้วอาจจะยิ้มไม่ออกก็ได้นะ รายละเอียดเพิ่มเติม และช่องทางการ สั่งซื้อ


Surface Dial



          Surface Dial เป็นอุปกรณ์ใหม่ที่ถูกออกแบบมาสำหรับช่วยงานเหล่าครีเอทีฟให้สามารถ Scroll, Zoom และ Navigate ได้รวดเร็วกว่าการใช้นิ้วสัมผัสหน้าจอ ทำงานร่วมกับ Window 10 ราคาอยู่ที่ $99.99 รายละเอียดเพิ่มเติม และช่องทางการ สั่งซื้อ

Surface Book



          Surface Book รุ่นใหม่มาพร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่ใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i7 ใช้การ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม 2 เท่า และใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $2,399 รายละเอียดเพิ่มเติม และช่องทางการ สั่งซื้อ

Windows 10 Creators Update



          Windows 10 Creators Update จะเพิ่มคุณสมบัติในการสร้างเนื้อหาแบบ 3D และ Mixed Reality นอกจากนี้ Microsoft Edge ก็จะรองรับการแสดงผล 3D แบบบนเว็บอีกด้วย ซึ่งจะเปิดให้อัปเดตในต้นปี 2560

Paint 3D



          Microsoft ปัดฝุ่นโปรแกรมวาดรูปดั้งเดิมที่ติดมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Window อย่างโปรแกรม Paint โดยการเพิ่มความสามารถในการวาดภาพ 3D แล้วยังเปิดตัว Remix3d.com ชุมชนออนไลน์ที่เป็นแหล่งรวมตัวของผู้สร้างเนื้อหา 3D โดยเฉพาะ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 3D บน Window 10 ได้ ที่นี่

อัพเกรด Microsoft Office




          Windows 10 Creators Update จะเพิ่มประสิทธิ์ภาพของโปรแกรม Microsoft Office ให้รองรับการใช้งานวัตถุ 3D และ Inking Features รายละเอียดเพิ่มเติม

Mixed Reality



          Windows 10 Creator Update จะลองรับเทคโนโลยี Mixed Reality (MR หรือ Mixed Reality คือการนำข้อมูลจากโลกจริงและโลกเสมือนมารวมกัน) ซึ่งจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมเป็น VR(Virtual Reality) Headset ที่ทาง Microsoft ประกาศว่าจะวางจำหน่ายในปี 2560 โดยผู้ผลิต VR Headset ได้แก่ HP, Lenovo, ASUS, Dell และ Acer


Broadcast Game ได้ง่ายขึ้น



          Windows 10 Creator Update จะช่วยให้นักเล่นเกมทุกคนสามารถ Broadcast Game บน Windows 10 และ Xbox One ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถสร้าง tournament ใน Arena บน Xbox Live ได้อีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติม

Windows MyPeople



          Windows 10 Creators Update เพิ่มการทำงานให้เราสามารถปักหมุดรายชื่อคนที่เราติดต่อเป็นประจำไว้ที่ Windows task bar มุมขวาล่าง ทำให้สามารถลาก-วางไฟล์หรือรูปภาพเพื่อแชร์ให้กับคนสนิทได้ง่ายขึ้น

          สรุป: งาน Microsoft Windows 10 Event ครั้งนี้ได้เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่แล้วก็อธิบาย Feature ที่เพิ่มเข้ามาหลังจากอัปเดตระบบปฏิบัติการในช่วงต้นปี 2560 ซึ่งทาง Microsoft บอกอีกว่า Feature ใหม่ไม่ได้มีแค่นี้ ยังเหลือ Feature ที่รอการเปิดตัวเพิ่มในอีกไม่นาน .....เห็นแบบนี้แล้วอยากเล่น MR เร็ว ๆ จังแฮะ แถม Feature ใหม่ก็น่าใช้อีกด้วย ยังไงก็ต้องรอ Windows 10 Creators Update ต้นปีหน้าล่ะนะ ส่วนรายละเอียดงานเต็ม ๆ เพื่อน ๆ สามารถดูได้ที่ วิดีโองาน Microsoft Windows 10 Event


ที่มา: Windows blogsMicrosoft Live Event


วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

[ประชาสัมพันธ์] Young Webmaster Camp #14 Digital for all


          กลับมาอีกครั้งแล้ว! Young Webmaster Camp #14 ค่ายสำหรับนักศึกษารุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 14 ภายใต้หัวข้อ "Digital for All เปิดมิติใหม่สู่โลกไร้พรมแดน" โดยภายในค่ายแบ่งเวิร์กช็อปในด้านการพัฒนาเว็บออกเป็น 4 สาขา ได้แก่ Web Content(นักเขียน), Web Design(นักออกแบบ), Web Marketing(นักการตลาด), Web Programming(นักเขียนโค้ด) เพื่อน ๆ จะได้พบกับเหล่าวิทยากรผู้มากฝีมือในวงการเว็บไทย ซึ่งจะเป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับเพื่อน ๆ เพื่อสร้างสายเลือดใหม่ให้กับวงการนักพัฒนาเว็บไซต์ของไทย นอกจากผู้เข้าร่วมจะได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้เรียนรู้หลักการพัฒนาเว็บไซต์แล้ว งานนี้ยังฟรี!ไม่เสียใช้จ่ายอีกด้วย


วันที่ 22 - 25 ธันวาคม 2559
สถานที่: มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ( วิธีเดินทาง )


กำหนดการ
รับสมัคร: วันนี้ - 15 พฤศจิกายน 2559
ประกาศผลผู้เข้ารอบ: 19 พฤศจิกายน 2559
สัมภาษณ์ผู้ผ่าน: 26 พฤศจิกายน 2559
ประกาศผลตัวจริงและตัวสำรอง: 28 พฤศจิกายน 2559
วันค่าย: 22 - 25 ธันวาคม 2559


ติดตามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่
Website: http://www.ywc.in.th/
Facebook: https://www.facebook.com/ywcth
Twitter: https://twitter.com/ywcth
Instagram: https://www.instagram.com/ywcth/


วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Google DeepMind สามารถเรียนรู้จากหน่วยความจำเองได้แล้ว


          DeepMind คือทีมผู้วิจัยเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือเรียกย่อ ๆ ว่า AI) ของบริษัท Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google (แต่จริง ๆ บริษัทนี้ถูกก่อตั้งโดย Google ล่ะ..... เขามีแต่ก่อตั้งบริษัทลูก นี่อินดี้กว่า...ก่อตั้งบริษัทแม่ ฮะฮะ) ได้พัฒนา AI ที่เรียกว่า Differentiable Neural Computer (DNC) ซึ่งเป็น Hybrid System หรือระบบแบบผสมผสานระหว่าง Neural Network (ระบบโครงข่ายประสาท) กับ AI โดยเจ้า DNC ตัวนี้สามารถเรียนรู้ได้เองโดยใช้ข้อมูลในหน่วยความจำในการตอบปัญหาซับซ้อนได้



          หัวใจสำคัญของ DNC คือระบบโครงข่ายประสาทที่เรียกว่า Controller ซึ่งจะทำหน้าที่คล้ายหน่วยประมวลผลในคอมพิวเตอร์ โดยการรับข้อมูลเข้ามา จากนั้นก็ทำการอ่านหรือเขียนข้อมูลลงในหน่วยความจำ แล้วจึงสร้างเป็นคำตอบกลับออกมา

          ในการเขียนข้อมูลลงในพื้นที่หน่วยความจำ Controller สามารถเลือกที่จะเขียนข้อมูลลงในพื้นที่ว่างหรือเขียนอัปเดตทับพื้นที่ข้อมูลเก่าก็ได้ หลังจากเขียนข้อมูลเสร็จแล้วก็จะมีการเชื่อมโยงไปยังพื้นที่อื่นในหน่วยความจำ และในตอนอ่านหน่วยความจำ Controller ก็จะค้นหาข้อมูลไปตามพื้นที่ที่เชื่อมโยงกัน และนำข้อมูลที่อ่านไปใช้สร้างเป็นคำตอบออกมา ซึ่งการเชื่อมต่อพื้นที่หน่วยความจำจาก node นึงไปสู่อีก node นึงจนเป็นเครือข่ายแบบนี้ก็คือเป็นการจำลองการทำงานของสมองมนุษย์นั่นเอง (สมกับชื่อ "ระบบโครงข่ายประสาท" เลยล่ะ)

          หลังจากพัฒนา DNC ออกมาเสร็จแล้ว ทาง DeepMind ก็นำไปทดสอบหาคำตอบจากปัญหาที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ เช่น

          การถามวิธีเดินทาง: เมื่อใส่ข้อมูลแผนผังการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินใน London และถามวิธีเดินทางจากสถานีนึงไปยังอีกสถานีนึง DNC ก็จะสามารถนำทางไปได้ด้วยเส้นทางที่สั้นที่สุด

          การถามความสัมพันธ์ในครอบครัว: เมื่อให้เรียนรู้ข้อมูลความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวแล้ว DNC สามารถเข้าใจความสัมพันธ์เพิ่มเติมจากในแผนผังและสามารถตอบคำถามซับซ้อนอย่าง "ใครเป็นลุงของแม่ของ Freya?" ได้

          จากการเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำทำให้ DNC สามารถเรียนรู้และตอบปัญหาที่ซับซ้อนได้ ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการพัฒนา AI ให้สามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้การทำงานของ DNC ยังเป็นการเลียนแบบวิธีทำงานของสมองมนุษย์ ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจหลักการทำงานของสมองมนุษย์ได้มากยิ่งขึ้น .....และบางทีในอนาคตเราอาจจะเห็นหุ่นยนต์อย่าง R2D2 เดินอยู่ท่ามกลางผู้คนบนท้องถนน (ฮา)


สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ ที่นี่
ที่มา: Deepmind.comSciencealert.com


วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Game สนุก ๆ ในหน้า 404 Page not found ของเว็บ Android.com


          เวลาเพื่อน ๆ เข้าใช้งานเว็บไซต์ เพื่อน ๆ เคยเจอหน้าเว็บ Page not found กันไหม ตัวอย่างเช่น https://www.dek-d.com/123 เมื่อเพื่อน ๆ เปิดลิงค์นี้ก็จะพบกับหน้า Page not found ของเว็บเด็กดี ซึ่งเว็บไซต์ในปัจจุบันจะไม่ค่อยมีหน้า Error 404 Page not found (แบบในรูปนี้) กันแล้ว ส่วนมากนักพัฒนาเว็บจะสร้างหน้า Page not found ขึ้นมาเอง โดยเมื่อมีใครเปิดหน้าเว็บไซต์แบบมั่ว ๆ (เช่นลิงค์ของเว็บเด็กดีในตัวอย่าง) ก็จะมีลิงค์ให้ย้อนกลับไปหน้าอื่น ๆ ของเว็บหรือไม่ก็ทำการเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ไปเป็นหน้าอื่นแทน

          เว็บไซต์ Android.com (เป็นเว็บไซต์ของทาง Google ที่จะแสดงข้อมูลของระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นปัจจุบัน แล้วก็อุปกรณ์ที่ใช้งาน Android ไม่ว่าจะเป็น Smart Phone, Smart Watch, Tablets, Smart TV เป็นต้น) ได้ทำการเพิ่มลูกเล่นในหน้าเว็บ Page not found โดยใส่เกมเล็ก ๆ เข้าไปให้ผู้ใช้งานเล่น โดยเมื่อเพื่อน ๆ ทำการกดเข้าลิงค์ https://android.com/ainotsubasa (หรือลิงค์อื่น ๆ ที่จะพาไปสู่หน้า Page not found) แล้วก็จะมีปุ่ม Play ให้เล่นเกม


          เมื่อกดเริ่มเล่นเกมแล้วจะมีขนมหวาน Donuts, Jelly Beans หรือ Marshmallows (ซึ่งเป็นชื่อเวอร์ชั่นของระบบปฏิบัติการ Android) โผล่ออกมา ให้เราทำการปรับท่อให้ขนมหวานชิ้นนั้น ๆ ไหลไปเข้าท่อให้ตรงตามสัญลักษณ์ ถ้าขนมหวานไหลไปลงท่อถูกก็จะได้รับคะแนนเพิ่ม แต่ถ้าขนมหวานไหลไปลงผิดท่อครบ 5 ครั้งก็จะเกมโอเวอร์และมีให้แชร์คะแนนออกไปยัง Social Network ต่าง ๆ ได้แก่ FacebookTwitter และ Google+ .....ไม่รู้ว่าเกมนี้จะอยู่ให้เล่นนานแค่ไหน เพื่อน ๆ ก็ลองเข้าไปเล่นกันดูนะครับ


วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ค้นพบช่องปริศนา 2 ช่องที่มหาพีระมิดแห่งกิซ่า


          ประเทศอียิปต์เป็นประเทศที่ร่ำรวยด้วยศิลปวัฒนธรรมโบราณ หนึ่งในอารยธรรมเก่าแก่ที่น่าทึ่งก็คือ พีระมิด .....สุดยอดสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์อียิปต์โบราณ และด้วยความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย ชาวอียิปต์จึงได้ฝังทรัพย์สินสิ่งของเครื่องใช้ไปพร้อมกับพระศพ เพื่อให้องค์กษัตริย์ของพวกเขามีทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับโลกหน้า ดังนั้นในพีระมิดก็จะมีห้องที่ใช้เก็บสมบัติ เมื่อทำการฝังพระศพเรียบร้อยก็จะทำการปิดผนึกห้องเพื่อไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนกษัตริย์ผู้เป็นร่างอวตารของพระเจ้า

          มหาพีระมิดแห่งกิซ่า หรือที่รู้จักกันในนามพีระมิดคูฟูมีอายุมากกว่า 4,500 ปี เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ใช้สำหรับบรรจุพระบรมศพของกษัตริย์คูฟูและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีความสูงถึง 146 เมตร เนื่องจากขนาดอันใหญ่โตของพีระมิดจึงทำให้ยากต่อการสำรวจ มหาวิทยาลัย Cairo University’s Faculty of Engineering แห่งประเทศอียิปต์จึงได้ร่วมมือกับบริษัท Paris-based non-profit organization Heritage, Innovation and Preservation (HIP Institute) จัดตั้งโครงการที่มีชื่อว่า Scan Pyramids ขึ้นมาเพื่อทำการสำรวจมหาพีระมิดแห่งนี้ โดยเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2558 (ใกล้จะครบ 1 ปีแล้วแฮะ)

แค่เป็นปริศนาอันยาวนานถึง 4,500 ปี ไม่ได้หมายความว่าจะไขไม่ได้ - Scan Pyramids

          ในการสำรวจได้มีการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาช่วย ซึ่งจะไม่มีการบุกรุกเข้าไปสำรวจยังภายในพีระมิด โดยเทคโนโลยีที่ใช้ได้แก่


          กล้องอินฟาเรด: ใช้เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิภายในสิ่งก่อสร้าง โดยเทคโนโลยีนี้ใช้หลักการที่ว่าวัตถุจะแผ่รังสีความร้อนออกมา ซึ่งกล้องจะทำหน้ารับข้อมูลแล้วนำไปแสดงผลออกมาในรูปแบบของสีที่แตกต่างกันตามอุณหภูมิ โดยสีโทนสว่างจะแสดงผลของบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง และสีโทนมืดจะแสดงผลของบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำ

          การถ่ายภาพด้วยรังสีมิวออน: รังสีมิวออนเกิดจากรังสีคอสมิก (อนุภาคพลังงานสูงจากอวกาศ) กระทบกับบรรยากาศชั้นสูงแล้วตกลงมายังโลก รังสีนี้จะทำหน้าที่คล้ายรังสี X-ray ที่พุ่งผ่านเข้าไปภายในวัตถุก่อนจะผ่านตัวตรวจจับมิวออน ซึ่งจะแสดงโครงสร้างภายในของพีระมิด
          แบบจำลอง 3 มิติ: ใช้โดรนหรืออากาศยานไร้คนขับทำการถ่ายภาพและทำเลเซอร์สแกนเพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติขึ้นมา

          ผลจากการสำรวจ นักวิจัยค้นพบ "โพรง" ปริศนาที่ความสูง 105 เมตรเหนือพื้นตรงขอบตะวันออกเฉียงเหนือ และตรงเหนือประตูทางเข้า ซึ่งโพรงที่ค้นพบมีรูปแบบคล้ายกับทางเข้าไปยังภายในของพีระมิด ทำให้นักวิจัยจากโครงการคาดเดาว่าอาจจะมีห้องลับซุกซ่อนอยู่ภายในมหาพีระมิดแห่งนี้ แต่นักโบราณคดีอียิปต์คุณ Zahi Hawass กลับออกมาให้สัมภาษณ์โต้แย้งการค้นพบครั้งนี้ว่า "นักวิจัยเหล่านั้นก็เป็นแค่นักวิทยาศาสตร์ที่ไม่มีความรู้เรื่องโบราณคดี พีระมิดสร้างจากหินน้อยใหญ่ก็จะเจอรอยแตกแบบนี้เป็นธรรมดา ผมไม่คิดว่าจะมีห้องลับอะไรหรอก"

          สุดท้ายก็คงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์สมมุติฐานเรื่องทางเข้าปริศนาว่าเป็นความจริงหรือเป็นแค่มโนเพ้อฝันของนักวิจัย แต่ไม่ว่าโพรงที่ค้นพบจะเป็นทางเข้าห้องแห่งความลับของโรงเรียนฮอกวอตส์ เอ๊ยไม่ใช่ ของมหาพีระมิด หรือเป็นเพียงรอยแตกของหินที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานก็ตามที การค้นพบเรื่องราวใหม่ ๆ ก็ยังคงสร้างความหน้าตื่นตาตื่นใจไว้เป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาตร์ของมนุษยชาติอยู่ดี.....


ที่มา: Sciencealert.com


วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2559

[ประชาสัมพันธ์] OWASP Thailand Meeting : A8 Cross-Site Request Forgery (CSRF)

          สวัสดีครับ วันนี้ผมนำงานสัมนาดีประจำเดือนตุลาคมมาฝาก "OWASP Thailand Meeting : A8 Cross-Site Request Forgery (CSRF)" งานสัมนาสำหรับนักพัฒนาเว็บแอปพลิเคชั่นซึ่งจะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเว็บ งานสัมนางานนี้เป็นภาคต่อของงานสัมนาครั้งที่แล้ว OWASP Thailand Meeting : A7 Missing Function Level Access Control โดยจะพูดถึงช่องโหว่อันดับที่ 8 ของ OWASP Top 10 ปี 2013

          งานสัมนา "OWASP Thailand Meeting" ภายใต้หัวข้อ "A8 Cross-Site Request Forgery (CSRF)" ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 ซึ่งจัดโดย OWASP Thailand ที่สำคัญคือ งานสัมนาครั้งนี้ฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ (ยกเว้นค่าเดินทาง ฮะฮะ)

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2559
เวลา 18:00 - 21:00 น.
สถานที่ ชั้นที่ 16 ห้อง 1601 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถนนวิภาวดีรังสิต แผนที่

Agenda

18.00 – 18.45 น. ลงทะเบียน
18.45 – 19.00 น. กล่าวต้อนรับ โดย OWASP Thailand Chapter Leader
19.00 – 20.00 น. บรรยายช่วงแรก ในหัวข้อ "A8 Cross-Site Request Forgery (CSRF)" โดยคุณพลากร นาคพงษ์
20.00 – 20.10 น. พักการบรรยาย
20.10 – 21.00 น. บรรยายช่วงที่สอง ในหัวข้อ "A8 Cross-Site Request Forgery (CSRF)" โดยคุณพลากร นาคพงษ์
21.00 – 21.10 น. กล่าวปิดงาน โดย OWASP Thailand Chapter Leader และถ่ายภาพร่วมกัน


ที่มา:  OWASP Thailand Meeting 10/2016 (Free Event)

[PHP] ตอนที่ 2: เตรียมความพร้อมสำหรับการเขียน PHP


          จากตอนที่แล้ว [PHP] ตอนที่ 1: ทำความรู้จักกับ PHP เราได้ทำความเข้าใจการทำงานของเว็บแบบคร่าว ๆ ไปแล้ว คราวนี้เราจะมาเตรียมความพร้อมก่อนจะลงมือเขียน PHP กัน อย่างที่บอกไปในตอนที่แล้วว่า PHP จะทำงานที่ฝั่ง Server ดังนั้นเราต้องติดตั้งตัวจำลองเครื่องคอมของเราให้เป็นเครื่อง Web Server กันก่อน และอีกสิ่งที่จำเป็นต้องทำคือการติดตั้งเครื่องมือสำหรับเขียน PHP .....เอาล่ะ ก่อนอื่นเรามาทำการติดตั้งเครื่องมือที่ใช้เขียน PHP กันก่อนเลย


วิธีติดตั้งเครื่องมือที่ใช้เขียน PHP


          PHP เป็นภาษาที่ใช้ Text Editor เขียนได้เลย เพราะไฟล์ .php สามารถทำงานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องแปลงให้เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ก่อน ดังนั้นเพื่อน ๆ สามารถใช้ Text Editor สามัญประจำบ้านอย่าง Notepad เขียน PHP ก็ได้ แต่ถ้าทำแบบนั้นจริงก็คงจะเทพเกินไปหน่อยแล้วล่ะ เพราะ Notepad ไม่มีการแบ่งสีเลย ทุกอย่างเป็นสีขาวดำหมด ดูแล้วลายตามากมาย ดังนั้นเรามาใช้เครื่องมือตัวอื่นกันเถอะ(ฮา) .....ถ้าจะพูดถึงการสร้างเว็บ เพื่อน ๆ น่าจะนึกถึงเครื่องมือชื่อดังตัวนึงที่ชื่อ Adobe Dreamweaver เครื่องมือตัวนี้สามารถช่วยสร้างเว็บได้อย่างดีแต่มีราคา(ค่อนข้างสูง)ดังนั้นเราก็จะเมินมันไป(ฮา)

          เครื่องมือที่ผมจะแนะนำก็คือ Text Editor ตัวนึงที่มีชื่อว่า Sublime Text (เพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวนี้ก็ได้นะ ใช้พวก Notepad++ , Vim , Atom แทนก็ได้) สาเหตุที่ใช้เครื่องมือจำพวก Text Editor ก็เพราะโปรแกรมมีขนาดไม่ใหญ่มาก ทำงานรวดเร็ว เอาล่ะ!.....เรามาติดตั้งโปรแกรมกันเลย

อันดับแรกก็ต้องดาวน์โหลดตัวติดตั้งมาก่อน โหลดที่นี่

เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ตัวติดตั้งแล้วจะขึ้นหน้าจอแบบนี้ ให้คลิ๊ก Next

เลือก Path ที่จะติดตั้งโปรแกรม จากนั้นคลิ๊ก Next


คลิ๊ก Next แล้วก็คลิ๊ก Install

รอจนติดตั้งเสร็จแล้วลองเรียกโปรแกรมขึ้นมาจะได้หน้าจอแบบนี้ เป็นอันติดตั้งเสร็จสมบูรณ์


วิธีติดตั้งตัวจำลอง Web Server


          ตัวจำลอง Web Server ที่ผมจะใช้คือ XAMPP .....เอ๊ะ! XAMPP คืออะไรน่ะเหรอ XAMPP ก็คือ โปรแกรมที่ใช้จำลองเครื่องคอมให้เป็น Web Server เพื่อทดสอบสคริปหรือเว็บไซต์โดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ซึ่ง XAMPP จะมาพร้อมกับ PHP ภาษาสำหรับพัฒนาเว็บไซต์, MySQL ฐานข้อมูล, Apache ทำหน้าที่เป็น Web Server, phpMyadmin ระบบจัดการฐานข้อมูล เป็นต้น


เริ่มต้นด้วยการโหลดตัวติดตั้งมาก่อน โหลดที่นี่

เมื่อโหลดเสร็จแล้ว ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ตัวติดตั้งแล้วจะขึ้นหน้าจอแบบนี้ ให้คลิ๊ก Next

เลือกโปรแกรมที่จะติดตั้ง(หรือจะติดตั้งทั้งหมดก็ได้) จากนั้นคลิ๊ก Next

เลือก Path ที่จะติดตั้งโปรแกรมแล้วก็คลิ๊ก Next


คลิ๊ก Next

กำลังติดตั้งโปรแกรม โปรดรอ.....

เลือกสั่งให้โปรแกรมทำงานแล้วกด Finish

จะได้หน้าจอโปรแกรมแบบนี้


เพื่อน ๆ สามารถเปิดโปรแกรมได้จากการดับเบิ้ลคลิ๊ก xampp-control ใน Path ที่ติดตั้งโปรแกรม
หรือไอคอนตรง Taskbar ที่มุมขวาล่าง

เข้าเว็บบราวเซอร์แล้วพิมพ์ localhost จะพบ Error ไม่สามารถใช้งานได้
เนื่องจากเรายังไม่ได้เปิดใช้งาน Service ตัวจำลอง Web Server

กลับไปที่หน้าโปรแกรม กด Start เพื่อใช้งาน Service ได้
หลัก ๆ ที่จะใช้งานได้แก่ Apache กับ MySQL

กลับมาที่เว็บบราวเซอร์แล้วกด refresh ก็จะพบว่าตัวจำลอง Web Server ใช้งานได้แล้ว


          มาถึงขั้นนี้เราก็พร้อมที่เขียนเว็บแล้วล่ะ แต่ก่อนหน้านั้นเรามาทำความรู้จักโฟลเดอร์สำคัญ ๆ ที่จะใช้งาน แล้วก็ config ค่าที่จำเป็นกันก่อนดีกว่า
  • apache: เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ Apache ซึ่งเป็นตัวจำลอง Web Server
  • htdocs: เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ .php ที่เราสร้างขึ้นมา ***สำคัญ: เราจำเป็นต้องสร้างไฟล์ .php หรือเว็บไซต์ไว้ภายในโฟลเดอร์ htdocs ถึงจะทำการทดสอบผ่าน url http://localhost/ ได้***
  • mysql: เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ฐานข้อมูล
  • php: เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บ config ของ php
  • phpMyAdmin: เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บโปรแกรมจัดการฐานข้อมูล
          เอาล่ะ! เรารู้จักโฟลเดอร์สำคัญกันอย่างคร่าว ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราจะมีทำการ config ฐานข้อมูลกัน เนื่องจากตอนติดตั้ง XAMPP ไม่มีให้ทำการตั้งค่า password ของฐานข้อมูล ดังนั้นเราเลยสามารถเข้าฐานข้อมูลได้โดยไม่ต้อง Login ซึ่งถ้าเอาไปใช้งานจริงแล้วใคร ๆ ก็สามารถเข้าไปดูฐานข้อมูลของเราได้แบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะงั้นเรามา config password ของฐานข้อมูลกัน

อันดับแรกให้เราเข้าไปที่ http://localhost/phpmyadmin/ แล้วคลิ๊กที่เมนู User accounts
คลิ๊กที่ Edit privileges

คลิ๊กที่ Change password

พิมพ์ password ที่ต้องการ จากนั้นคลิ๊ก Go

พอเรา refresh เว็บบราวเซอร์แล้วจะพบกับ Error
เนื่องจากเรายังไม่ได้ config password ในไฟล์ config

ไปที่ path ติดตั้งโปรแกรม ให้เราเข้าโฟลเดอร์ phpMyAdmin

เปิดไฟล์ config.inc.php ด้วยโปรแกรม Sublime Text

บรรทัดที่ 21 ให้แก้เป็น $cfg['Servers'][$i]['password'] = '***';
โดย *** คือ password ที่เราตั้งค่าใน http://localhost/phpmyadmin/

เท่านี้เราก็เข้าใช้งานฐานข้อมูลได้แล้ว

ทดสอบรันโค้ด PHP


          หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรามาทดสอบรันโค้ด PHP กันก่อนดีกว่า เปิดโปรแกรม Sublime Text ขึ้นมาแล้วเขียนโค้ดตามนี้

<?php

echo "Hello World, PHP.";

?>

          จากนั้นก็เซฟไฟล์เป็นชื่อ helloWorld.php เก็บไว้ในโฟลเดอร์ htdocs ตามที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ วิธีรันโค้ดที่เขียนให้เข้าไปที่ url: http://localhost/helloWorld.php ก็จะได้ผลลัพธ์ตามรูปข้างล่าง .....อ้อ! อย่าลืมสั่ง start Apache ก่อนนะครับ


อธิบายเพิ่มเติม: url http://localhost/xxx จะทำการเรียกไฟล์ xxx ในโฟลเดอร์ htdocs เช่น

  • http://localhost/helloWorld.php จะทำการรันไฟล์ helloWorld.php ที่อยู่ในโฟลเดอร์ htdocs
  • http://localhost/example/testRun.php จะทำการรันไฟล์ testRun.php ที่อยู่ในโฟลเดอร์ htdocs/example/
  • http://localhost/example1/example2/testRun.php จะทำการรันไฟล์ testRun.php ที่อยู่ในโฟลเดอร์ htdocs/example1/example2/
กรณีที่ไม่ใส่ชื่อไฟล์ เช่น http://localhost/ ระบบก็จะทำการรันไฟล์ index.html ก่อน ถ้ายังไม่เจอไฟล์นี้ระบบก็จะรันไฟล์ index.php เป็นอันดับถัดไป

          เป็นยังไงกันบ้าง บล็อกนี้ยาวไปสักนิดแต่ก็ทำให้เราเตรียมเครื่องให้พร้อมสำหรับการเขียน PHP เรียบร้อยแล้ว พบกันใหม่ในบล็อกถัดไปนะครับ


----- สารบัญ -----