วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สรุปงาน Made by Google เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ของ Google ในวันที่ 4 ตุลาคม 2559


          จบกันไปเรียบร้อยแล้วนะครับสำหรับงาน Made by Goole ซึ่งเป็นงานเปิดตัวอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ใหม่ของ Google ในวันที่ 4 ตุลาคม 2559 งานนี้มีอุปกรณ์น่าเล่นมากมาย ที่อยากได้มากที่สุดก็คงจะเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ Pixel XL เนี่ยแหละครับ (ฮา) .....เอาล่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าในงานนี้มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง


          เริ่มต้นงานด้วยคลิปนี้ ขอสารภาพตามตรงว่ายังไม่เคยดูเรื่อง Silicon Valley เลย (ฮา) หลังจากนั้นคุณ Sundar Pichai ซึ่งเป็น CEO ของ Google ก็เดินออกมากล่าวเปิดงาน เล่าถึงการเปลี่ยนผ่านจากยุค PC ที่ทำงานแบบ Stand-alone คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องไม่เชื่อมต่อกัน ส่งไฟล์ผ่านแผ่น Floppy Disk (ดักแก่เลยจ้า ฮะฮะ) ไปสู่ยุค Web ที่คอมพิวเตอร์สื่อสารกันผ่านอินเตอร์เน็ต จากนั้นก็พัฒนาไปสู่ยุค Mobile First ที่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ แล้วก็เข้าสู่ยุค AI First ซึ่งเป็นยุคที่สิ่งประดิษฐ์สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองจากข้อมูลมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Alpha Go ปัญญาประดิษฐ์ที่เอาชนะแชมป์เกม Go ได้นั่นเอง


          หลังจากพูดเสร็จคุณ Sundar Pichai ก็แสดงคลิปแนะนำ Google Assistant ซึ่งเป็น AI ที่จะคอยช่วยเหลือเรา โดยทาง Google ก็มีการ(แอบ)เก็บข้อมูลการใช้งานของเรา นำไปให้ AI เรียนรู้ เพื่อที่จะได้ตอบสนองหรือนำเสนอข้อมูลได้ตรงตามที่เราต้องการ ราวกับ Google ถูกสร้างมาให้เข้ากับการใช้ชีวิตของเราโดยเฉพาะ

          ถัดไปก็เป็นเรื่องของ Machine learning ซึ่งทาง Google ได้ให้คอมพิวเตอร์แยกแยะรูปภาพว่าในรูปนั้น ๆ มีอะไรอยู่บ้าง ซึ่งตอนนี้สามารถแยกแยะรูปได้ถึง 93.9% เช่น แต่ก่อนแยกแยะได้ว่าในรูปมีรถไฟ แต่ปัจจุบันสามารถแยกแยะได้ลึกกว่านั้นว่ารถไฟมีสีอะไรบ้าง เป็นต้น Google Translate เองก็ยังมีการเรียนรู้เพื่อแปลข้อความออกมาให้แม่นยำมากกว่าเดิม นอกจากนี้แอปพลิเคชันแชทตัวใหม่ที่ชื่อ Allo ก็ยังสามารถพูดคุยโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้อีกด้วย หลังจากเกริ่นนำไปพอสมควรแล้วก็ถึงเวลาเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ ๆ แล้ว

Pixel, Pixel XL



          อุปกรณ์ใหม่ชิ้นแรกที่เปิดตัวก็คือสิ่งที่ทุกคน ๆ เฝ้ารอคอยกันอยู่ นั่นก็คือ Google Pixel และ Google Pixel XL นั่นเอง เจ้าอุปกรณ์นี้ถูกกล่าวว่าเป็นมือถือที่ดีที่สุดของ Google ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษ 5 อย่างได้แก่

  • Google Assistant: ผู้ช่วยที่จะแสดงข้อมูลตามที่ผู้ใช้งานต้องการด้วยคำสั่งเสียง พร้อมทั้งพยายามคาดเดาว่าผู้ใช้ต้องการจะทำอะไรต่อ เช่น บอกให้แสดงรูปถ่ายภายในเครื่อง บอกให้ตรวจสอบรอบการแสดงละคร เป็นต้น วิธีเรียกใช้งานก็ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่มโฮมค้างไว้เท่านั้นเอง
  • กล้องถ่ายภาพ: ได้รับคะแนนภาพถ่าย 89 คะแนนซึ่งเป็นคะแนนสูงที่สุดในบรรดากล้องจากโทรศัพท์มือถือจากเว็บจัดอันดับกล้องมือถือ DxOMark ซึ่งนอกจากจะใช้ฮาร์ดแวร์ของกล้องแล้ว ยังใช้ซอฟต์แวร์ HDR+ ร่วมอีกด้วย ภาพที่ได้จึงคมชัดและสว่าง แล้วยังมี Zero Shutter Lag ทำให้สามารถถ่ายรูปต่อเนื่องได้อย่างไม่ติดขัด สุดท้ายเป็นส่วนของวิดีโอซึ่งมีระบบกันสั่นทำให้คลิปที่ถ่ายออกมานิ่ง
  • หน่วยความจำ: Google Pixel จะมี Google Photo ติดมาพร้อมกับเครื่อง และยังให้พื้นที่ในการ back up ไฟล์ภาพถ่ายและไฟล์วิดีโอเต็มขนาดแบบไม่มีจำกัดพื้นที่ ไม่มีคำว่า Storage Full 
  • การติดต่อสื่อสาร: ใช้แอปพลิเคชันตัวใหม่ได้แก่ Google Duo ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันวิดีโอคอล กับ Google Allo ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแชท
  • Virtual Reality: Google Pixel เป็นมือถือรุ่นแรกที่รองรับ Daydream Ready ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ทำให้สามารถใช้งาน Virtual Reality ได้


          Google Pixel มี 3 สีให้เลือกนั่นคือ Quite Black, Very Silver แล้วก็ Really Blue (.....ตั้งชื่อได้กวนจัง ฮา) ส่วนสเปคก็ตามนี้ รายละเอียดเพิ่มเติม และช่องทางการ สั่งซื้อ


Daydream View



          ถัดจากมือถือก็เป็น Daydream View ซึ่งเป็นแว่น Virtual Reality (VR) ที่ใช้ผ้าเป็นวัสดุหลักเพื่อความนุ่มสบายตอนสวมใส่ มีคอนโทรลเลอร์ช่วยในการควบคุม คนที่ใส่แว่นก็สามารถใช้งานได้ (เย้!) ใช้งานโดยการเอามือถือที่รองรับ Daydream Ready มาเสียบ จากนั้นเราก็จะสามารถเข้าสู่โลกแห่ง VR ได้แล้ว ทำให้เราสามารถมองได้ 360 องศา (เพิ่มเติม: เวลาเราสวมแว่น VR และเปิดวิดีโอที่ทำมาสำหรับ VR โดยเฉพาะแล้ว เราจะรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกของวิดีโอเลยล่ะ ซึ่งวิดีโอ VR จะแบ่งภาพออกเป็น 2 หน้าจอ จอนึงสำหรับตาซ้าย อีกจอนึงสำหรับตาขวา แต่เมื่อมองผ่านแว่น VR แล้วจะเห็นเป็นจอเดียวพร้อมกับให้ความรู้สึกเสมือนเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วย)


          ในส่วนคอนโทรลเลอร์ที่ใช้ช่วยในการควบคุมนั้นนอกจากจะมีปุ่มกับ touchpad แล้วยังมีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนที่อยู่ด้วย ทำให้สามารถใช้ควบคุมอุปกรณ์ในเกม VR ได้ (ตามที่เห็นเกมที่สร้างจากหนังเรื่อง Fantastic Beasts and Where to Find Them ตรงช่วงเวลาที่ 00:39 นาทีของในคลิป จะเห็นไม้กายสิทธิ์ขยับไปตามตัวคอนโทรลเลอร์)
          Daydream View มีราคา $79 รายละเอียดเพิ่มเติม และช่องทางการ สั่งซื้อ

Google Home



          ลำโพงอัจฉริยะสั่งการด้วยเสียงของ Google เปรียบเสมือน Google Assistant ประจำบ้าน เริ่มต้นใช้งานด้วยการพูดว่า "Ok Google" ซึ่งเราสามารถ
  • ถามคำถาม เช่น ถามสภาพอากาศ ถามสภาพการจราจร เป็นต้น
  • สั่งการ เช่น สั่งให้เล่นเพลงจาก Google Play Music หรือสั่งเปิดภาพจาก Google Photo เป็นต้น
  • จัดตารางงาน


          นอกจากนี้ยังสามารถใช้ควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้านได้อีกด้วย อย่างปลั๊กไฟอัจฉริยะ สวิตซ์อัจฉริยะ ทีวีอัจฉริยะ Chromecast หรืออุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ที่อาจตามมาในอนาคต เช่น สั่งให้ลดแสงไฟ เปิด-ปิดเพลง เป็นต้น ดูตามคลิปแล้วอย่างกับมีจาร์วิสในหนัง Ironman เลยนะเนี่ย แต่บ้านเราจะได้ใช้แบบนี้หรือป่าวเนี่ยสิ (ฮา)
          Google Home มีราคา $129 รายละเอียดเพิ่มเติม และช่องทางการ สั่งซื้อ


Google Wi-Fi



          ชื่อก็บอกอยู่แล้วเนอะว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีไว้ใช้ทำอะไร ที่เพิ่มเติมจาก Wi-Fi routers ธรรมดาก็คือเมื่อใช้งาน Google Wi-Fi หลาย ๆ ตัวแล้ว เจ้าอุปกรณ์นี้ก็จะคุยกันเองและถ้าจุดไหนมีการใช้สัญญาณมากกว่า Google Wi-Fi ก็จะเร่งสัญญาณ ณ ตรงจุดนั้นให้มากกว่าปกติ
          Google Wi-Fi มีราคา $129 รายละเอียดเพิ่มเติม และช่องทางการ สั่งซื้อ

Chromecast Ultra



          Chromecast เป็นอุปกรณ์เสริมขนาดเล็กที่มีหัวเสียบเป็น HDMI เมื่อเสียบเข้ากับทีวีแล้ว Chromecast จะเป็นตัวกลางสำหรับสตรีมวิดีโอออกไปยังหน้าจอทีวี โดยใช้มือถือหรือเว็บเบราว์เซอร์ Chrome ที่อยู่ในวง Wi-Fi เดียวกันเป็นรีโมต ซึ่ง Chromecast Ultra จะสามารถสตรีมวิดีโอ 4K ที่มีความละเอียดสูง แถมยังเสียบสาย Lan ได้อีกด้วย
          Chromecast Ultra มีราคา $69 รายละเอียดเพิ่มเติม

          สุดท้ายคุณ Scott Huffman ก็ขึ้นเวทีมาพูดเกี่ยวกับ Google System เล่าว่าแต่ก่อน Google Assistant ทำได้แค่นำเสนอข้อมูล ยังไม่สามารถทำอะไรได้มากมายเหมือนปัจจุบัน แต่ปัจจุบันนี้สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น เช่น เวลาถามรอบหนังแล้วก็สามารถจองตั๋วได้เลย

          สรุปงาน Made by Google ก็มีประมาณนี้ จากงานนี้เห็นได้ว่า Google เองก็กระโดดมาเล่นด้านฮาร์ดแวร์บ้างแล้ว เมื่อซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เป็นของผู้ผลิตเจ้าเดียวกัน อุปกรณ์ก็จะทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ อาจจะมีอะไรที่ไม่ได้พูดถึงหรือตกหล่นไปบ้าง เพื่อน ๆ ก็สามารถดูวิดีโองาน Made by Google แบบเต็ม ๆ ได้ที่คลิปข้างล่างเลย


ที่มา: Made by Google Youtube , Made by Google Web


Share:

1 ความคิดเห็น: