ส่วนมากในการเขียนโปรแกรม เราจำเป็นต้องเขียนให้โปรแกรมมีการตัดสินใจทำอะไรบางอย่างตามเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น โปรแกรมตัดเกรดที่จะรับคะแนนของนักเรียนเข้ามาแล้วแปลงเป็นเกรด เป็นต้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเขียนโปรแกรมให้มีการตรวจสอบเงื่อนไข เพื่อเป็นการกำหนดเส้นทางการทำงานว่าโปรแกรมควรจะทำอะไรต่อไป โดยคำสั่งสำหรับตรวจสอบเงื่อนไขแบ่งออกเป็น 2 คำสั่ง ได้แก่ คำสั่ง if และ คำสั่ง switch
คำสั่ง if
คำสั่ง if เป็นคำสั่งสำหรับตรวจสอบเงื่อนไขอย่างง่าย สามารถแบ่งเป็น 3 รูปแบบใหญ่ ๆ คือ การตรวจสอบเงื่อนไขทางเลือกเดียว, การตรวจสอบเงื่อนไข 2 ทางเลือก, การตรวจสอบเงื่อนไขหลายทางเลือก
การตรวจสอบเงื่อนไขทางเลือกเดียว
<?php /********** Syntax **********/ if( เงื่อนไข ) { //การทำงาน } /********** ตัวอย่าง **********/ $a = 81; if( $a >= 80 ) { echo 'ตัวแปร $a มีค่ามากกว่าเท่ากับ 80'; } if( $a >= 80 && $a <= 100 ) { echo 'ตัวแปร $a มีค่าอยู่ในระหว่าง 80 ถึง 100'; } ?>การตรวจสอบเงื่อนไขทางเลือกเดียวจะใช้คำสั่ง if( เงื่อนไข ) โดยเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง โปรแกรมก็จะทำงานตามการทำงานที่ถูกกำหนดไว้ในเครื่องหมายปีกกา
การตรวจสอบเงื่อนไข 2 ทางเลือก
<?php /********** Syntax **********/ if( เงื่อนไข ) { //การทำงาน (1) } else { //การทำงาน (2) } /********** ตัวอย่าง **********/ $a = 81; if( $a >= 80 ) { echo 'ตัวแปร $a มีค่ามากกว่าเท่ากับ 80'; } else { echo 'ตัวแปร $a มีค่าน้อยกว่า 80'; } ?>การตรวจสอบเงื่อนไขทางเลือกเดียวจะใช้คำสั่ง if( เงื่อนไข ) ..... else ..... โดยเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง โปรแกรมก็จะทำงานตาม การทำงาน (1) ที่ถูกกำหนดไว้ในเครื่องหมายปีกกา และเมื่อเงื่อนไขไม่เป็นจริงโปรแกรมก็จะทำงานตาม การทำงาน (2)
การตรวจสอบเงื่อนไขหลายทางเลือก
<?php /********** Syntax **********/ if( เงื่อนไข 1 ) { //การทำงาน (1) } else if( เงื่อนไข 2 ) { //การทำงาน (2) } else if( เงื่อนไข 3 ) { //การทำงาน (3) } else { //การทำงาน (สุดท้าย) } /********** ตัวอย่าง **********/ $score = 75; if( $score >= 80 ) { echo "เกรด A"; } else if( $score >= 70 ) { echo "เกรด B"; } else if( $score >= 60 ) { echo "เกรด C"; } else if( $score >= 50 ) { echo "เกรด D"; } else { echo "เกรด F"; } ?>การตรวจสอบเงื่อนไขทางเลือกเดียวจะใช้คำสั่ง if( เงื่อนไข ) ..... else if( เงื่อนไข ) ..... โดยเมื่อ เงื่อนไข 1 เป็นจริง โปรแกรมก็จะทำงานตาม การทำงาน (1) ถ้า เงื่อนไข 1 ไม่เป็นจริงโปรแกรมก็จะไล่เช็คเงื่อนไขต่อ ๆ ไป เมื่อเจอเงื่อนไขที่เป็นจริงแล้ว โปรแกรมก็จะทำงานตามการทำงานที่อยู่ในเงื่อนไขนั้น ๆ และข้ามการทำงานของเงื่อนไขอื่น ๆ ไป
คำสั่ง switch
คำสั่ง switch เป็นคำสั่งสำหรับตรวจสอบเงื่อนไขหลายทางเลือกคล้าย ๆ กับของ คำสั่ง if แต่มีรูปแบบการเขียนที่กระชับกว่า จุดที่แตกต่างกันคือ คำสั่ง switch จะตรวจสอบว่าเงื่อนไขนั้นมีค่าตรงตามที่กำหนดไว้หรือเปล่า ทำให้มีความยืดหยุ่นน้อยกว่า คำสั่ง if
<?php /********** Syntax **********/ switch( เงื่อนไข ) { case ค่าที่ 1: //การทำงาน (1) break; case ค่าที่ 2: //การทำงาน (2) break; case ค่าที่ 3: //การทำงาน (3) break; ... default: //การทำงาน (สุดท้าย) } /********** ตัวอย่าง **********/ $gender = "ผู้ชาย"; switch($gender) { case "ผู้ชาย": echo "ชื่อของคุณขึ้นต้นด้วยคำว่า นาย"; break; case "ผู้หญิง": echo "ชื่อของคุณขึ้นต้นด้วยคำว่า นาง หรือ นางสาว"; break; default: echo "คุณเป็นเพศที่ 3"; } ?>คำสั่ง switch( เงื่อนไข ) จะทำการตรวจสอบเงื่อนไข ถ้าเงื่อนไขนั้นมีค่าตรงกับ case ไหนก็จะทำงานตามคำสั่งที่อยู่ภายใน case นั้น และเมื่อทำงานเสร็จแล้วจะต้องมีคำสั่ง break; เพื่อแสดงจุดสิ้นสุดการทำงาน ซึ่งโปรแกรมก็จะไม่ทำการตรวจสอบเงื่อนไขกับ case อื่น ๆ ที่เหลืออีก
ในบทความตอนนี้เพื่อน ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีเขียนโปรแกรมแบบกำหนดเงื่อนไขซึ่งจะช่วยให้โปรแกรมของเพื่อน ๆ มีการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปตามข้อมูลได้ ในบทความถัดไปจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำสั่งทำซ้ำ (Loop)
0 comments:
แสดงความคิดเห็น