วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2561

[PHP + Laravel] ติดตั้งและทำความเข้าใจโครงสร้างของ Laravel


          ในบทความที่แล้ว เราได้ทำความรู้จัก Laravel กันไปแล้ว สำหรับบทความนี้เราจะมาติดตั้ง Laravel กัน ซึ่งวิธีการติดตั้ง Laravel เนี่ยจะต้องติดตั้งผ่าน Composer..... อ้าว! แล้วไอ้เจ้า Composer มันคืออะไรกันล่ะ นักแต่งเพลงเหรอ?


          Composer คือเครื่องมือสำหรับติดตั้ง Package หรือ Library จากแหล่งต่าง ๆ ของภาษา PHP เนื่องจาก Package หรือ Library ของ PHP Framework ที่เป็น Open Source นั้นมีอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละตัวก็เกิดจากการสร้างสรรค์ของเหล่าโปรแกรมเมอร์มือฉมัง และกระจัดกระจายไม่เป็นหมวดหมู่ ในกรณีที่เราต้องการดาวน์โหลด Package หรือ Library มาใช้ เราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะมีของแถมจำพวกไวรัสหรือมัลแวร์ติดมาด้วยหรือเปล่า รวมไปถึงไฟล์นั้นรองรับกับเวอร์ชั่นของ php ที่เราใช้งานได้หรือไม่

          ด้วยเหตุนี้จึงมีการคิดค้น Composer ขึ้นมาเพื่อจัดระเบียบ Package และ Library ต่าง ๆ ให้มาอยู่ในแหล่งเดียวกัน ซึ่งจะสามารถติดตั้งไฟล์เหล่านี้ได้จากการใช้คำสั่ง Command โดย Composer จะทำการตรวจสอบและดาวน์โหลด Package นั้น ๆ มาติดตั้ง แต่ก่อนหน้าที่เราจะใช้ Composer ได้นั้น ก็ต้องติดตั้ง Composer กันก่อน เข้าไปที่ลิงค์ Download Composer

คลิกที่ "Composer-Setup.exe" แล้วคลิก Save File เล้ย

 
หลังจากดับเบิ้ลคลิกไฟล์ติดตั้งแล้วก็คลิก Next >

 
เลือก Path ของไฟล์ php.exe จากนั้นคลิก Next >

 
ถ้าเชื่อม Internet ต่อผ่าน Proxy ก็ให้กำหนด Proxy แล้วคลิก Next >

 
คลิก Install แล้วรอให้คอมพิวเตอร์ติดตั้ง.....

 คลิก Next > โล้ด

 
ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว คลิก Finish ปิดหน้าต่างไปได้เลย

ทดสอบการทำงานโดยเปิดโปรแกรม Command Prompt ขึ้นมาแล้วพิมพ์คำสั่งว่า composer

          หลังการทดสอบเรียกใช้ composer เราก็จะเห็นว่าเจ้า composer สามารถทำงานได้แล้ว ถัดไปเราก็จะใช้คำสั่งของ composer ในการติดตั้ง Laravel ซึ่งคำสั่งที่ใช้คือ  composer create-project --prefer-dist laravel/laravel ชื่อโฟลเดอร์ที่จะสร้าง 

composer create-project --prefer-dist laravel/laravel test_laravel

          พอเรียกใช้คำสั่งแล้ว composer ก็จะดาวน์โหลดและติดตั้ง Laravel ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลานานนิดหน่อย


          เมื่อติดตั้ง Laravel เสร็จแล้วเราสามารถเข้า URL http://localhost/test_laravel/public/ เพื่อเปิดหน้าเว็บที่เราเพิ่งสร้างขึ้นได้ นอกจากนี้ถ้าเราเข้าไปในโฟลเดอร์ที่ติดตั้ง Laravel ก็จะพบกับไฟล์และโฟลเดอร์เป็นจำนวนมาก สาเหตุที่มีหลากหลายโฟลเดอร์เป็นเพราะ Laravel ถูกออกแบบมาโดยใช้หลัก MVC จึงมีการแยกโฟลเดอร์ตามลักษณะการทำงานออกอย่างชัดเจน สิ่งที่เราต้องทำก็คือการเขียนโค้ดและเซฟเก็บไว้ในโฟลเดอร์ให้ถูกต้อง โดยโฟลเดอร์สำคัญ ๆ ที่ควรรู้ได้แก่

  • app: โฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์โค้ดทั้งหมดของเว็บ
    • Controllers: เป็นโฟลเดอร์ที่อยู่ภายในโฟลเดอร์ app/Httpd เอาไว้เก็บไฟล์ Controller ทั้งหมดของเว็บ
  • bootstrap: โฟล์เดอร์ที่เก็บไฟล์ซึ่งจะถูกโหลดทันทีเมื่อเว็บเริ่มต้นทำงาน
  • config: โฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์การตั้งค่าต่าง ๆ ของเว็บ
  • database: โฟล์เดอร์ที่เก็บไฟล์จัดการฐานข้อมูล เช่น สร้าง, เพิ่มเติม หรือแก้ไขฐานข้อมูล
  • public: โฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์สาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เช่นไฟล์ index.php, ไฟล์ css หรือไฟล์รูปภาพเป็นต้น เป็นจุดรับทุก request ที่เข้ามาในเว็บ
  • resources: โฟล์เดอร์ที่เก็บไฟล์สำหรับแสดงผล หรือไฟล์ที่ยังไม่ได้คอมไพล์
    • views: เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ View สำหรับแสดงผลของเว็บ
  • routes: โฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ตั้งค่า route สำหรับการเข้าถึงเว็บ
  • vendor: โฟลเดอร์ที่เก็บ Library ต่าง ๆ ที่ดาวน์โหลดโดย composer
          ถึงตรงนี้ เราก็ได้ทำการติดตั้ง Laravel แล้วก็พอจะรู้จักโครงสร้างคร่าว ๆ ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเมื่อเราเข้าใจหลักในการจัดเก็บไฟล์ทั้งหมดแล้ว เราก็จะสามารถพัฒนาเว็บได้อย่างง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


Share:

0 comments:

แสดงความคิดเห็น